การจัดองค์การ ( Organizing)
การจัดองค์การ (Organizing) คือ
กระบวนการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างคนงานและกิจกรรมต่างๆขององค์การเพื่อที่จะก่อให้เกิด
การใช้ทรัพยากรขององค์การให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
การจัดองค์การ (Organizing) คือ
การจัดระเบียบกิจกรรมต่าง ๆ ในองค์การ และมอบหมายงานให้คนปฏิบัติเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมายการจัดองค์การที่ดี
จะช่วยให้การบริหารการจัดการมีประสิทธิภาพได้เนื่องจาก
1. ทำให้ทราบขอบเขต
ความรับผิดชอบ และอำนาจหน้าที่ต่าง ๆ
2. ช่วยป้องกันการทำงานที่ซ้ำซ้อน
3. ช่วยประสานงานในหน้าที่ต่าง
ๆ ได้ดี
4. ช่วยลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างพนักงานในองค์การได้
5. สามารถแสดงให้เห็นตัวภาระหน้าที่ความรับผิดชอบได้ชัดเจน
6. ทำให้มีระบบการสื่อสารตามสายการบังคับบัญชาที่ดี
หลักของการจัดองค์การ
หลักสำคัญของการจัดองค์การ ควรมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน,
อำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบ , ความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชา
, สายบังคับบัญชา , ช่วงการบังคับบัญชา
, การประสานงาน , หลักของการทำงานเฉพาะอย่าง
และเอกภาพในการบังคับบัญชาองค์ประกอบของการจัดองค์การจะประกอบไปด้วย การแบ่งงานกันทำ (Division of work) การจัดแผนกงาน (Departmentalization) การกระจายอำนาจหน้าที่
(Distribution of Authority) และการประสานงาน
(Co-ordination)การจัดองค์การจะปรากฏขึ้นในรูปแผนภูมิองค์การที่เกิดจากการลากเส้นต่าง
ๆ เพื่อให้เห็นการแบ่งแยกกลุ่มงาน ผู้รับผิดชอบ ตามลำดับลดหลั่นกันไปรูปแผนภูมิองค์การนั้นก็คือ
ความสัมพันธ์ที่เป็นทางการของสมาชิกในองค์การหรือที่เรียกว่า องค์การที่เป็นทางการ (Formal Organization) แต่อย่างไรก็ตามองค์การมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ ดังนั้น
สายสัมพันธ์ในองค์การก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ซึ่งเราเรียกความสัมพันธ์ดังกล่าวว่าองค์การที่ไม่เป็นทางการ (Informal
Organization) องค์การที่ไม่เป็นทางการมีอยู่ทุกแห่ง
ซึ่งเป็นองค์การที่เกิดจากความสัมพันธ์ส่วนตัว
มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
- องค์การที่เป็นทางการ (Formal
Organization) คือ
กลุ่มหรือองค์การที่ถูกกำหนดขึ้นโดยโครงสร้างขององค์การซึ่งมีกฎเกณฑ์
รวมทั้งระบบสายการบังคับบัญชาที่กำหนดขึ้น
- องค์การที่ไม่เป็นทางการ
(Informal Organization) คือกลุ่มหรือองค์การที่เกิดจากการ
รวมตัวของปัจเจกบุคคล โดยอาศัยพื้นฐานทางด้านผลประโยชน์และสายสัมพันธ์ความเป็นเพื่อน
ลักษณะของความสัมพันธ์ภายในจึงไม่มีกฎเกณฑ์ข้อบังคับที่แน่นอน
องค์ประกอบของการจัดองค์การ
ขั้นตอนที่สำคัญ
|
องค์ประกอบของการ
จัดองค์การ
|
เหตุผล
|
1. กำหนดงานต่างๆชนิดที่จำเป็นจะต้องทำ
|
การแบ่งงาน
(Division of Work)
|
จัดแบ่งงานทุกชนิดขององค์การให้อยู่ในรูปของกลุ่มงานต่าง
ๆ โดยที่กลุ่มงานแต่ละกลุ่มนั้นจะใช้กำลังคนหนึ่งคนในการจัดทำ
|
2. จัดกลุ่มงานต่าง ๆ
ให้เข้าอยู่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
|
การจัดแผนกงาน
(Departmentalization)
|
รวมกลุ่มงานต่าง ๆ
เข้าด้วยกันเพื่อให้กิจกรรมต่าง ๆ สามารถดำเนินไปได้อย่างสอดคล้องและกลมกลืนกัน
|
3. กระจายและมอบหมายอำนาจหน้าที่ให้กับ บุคคลต่างๆ
ที่เกี่ยวข้อง
|
การกระจายอำนาจหน้าที่
(Distribution of Authority)
|
กำหนดความรับผิดชอบสำหรับงานต่าง
ๆ พร้อมทั้งมอบหมายหน้าที่ที่ต้องใช้ในการทำงานดังกล่าวให้กับบุคคลที่รับผิดชอบ
|
4.เชื่อมหน่วยงานต่าง ๆเข้าด้วยกัน
เพื่อให้การดำเนินการขอองค์การเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพบรรลุยังวัตถุประสงค์ที่ต้องการ
|
การประสานงาน
(Co-ordination)
|
เชื่อมบุคลากรและกิจกรรมต่าง
ๆให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสมที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์การสามารถดำเนินงาน
บรรลุยังวัตถุประสงค์ที่ต้องการ
|
การจัดโครงสร้างขององค์การ
หมายถึง การกำหนดหน่วยงานในแต่ละระดับให้เชื่อมโยงงานเข้าด้วยกัน
โดยอาจจะเชื่อมโยงงานในลักษณะแนวดิ่ง หรือแนวนอนก็ตาม ให้มีการประสานกิจกรรมต่าง ๆ
ในแต่ละระดับเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ
การออกแบบโครงสร้างองค์การตามหน้าที่ (Functional Organization)
เป็นวิธีการจัดองค์การ โดยแบ่งตามหน้าที่
หรือลักษณะงานที่ต้องทำโดยอาศัยความถนัดของแต่ละบุคคล เพื่อประโยชน์สูงสุดขององค์การ
การออกแบบโครงสร้างองค์การโดยพิจารณาถึงพื้นที่(TerritorialorGeographic
departmentation) เป็นการจัดรูปแบบองค์การโดยอาศัยออกเป็นกลุ่ม
ๆ โดยคำนึงถึงสภาพทางภูมิศาสตร์หรือแบ่งตามพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้เกิดความสะดวกในการขยายธุรกิจ หรือการกระจายสินค้าหรือบริหารได้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่
การออกแบบโครงสร้างองค์การตามแบบลูกค้า
เป็นการจัดกลุ่มงานโดยแยกตามความแตกต่างของลูกค้า เพื่อตอบสนองได้รวดเร็ว
และชัดเจนมากยิ่งขึ้น
การออกแบบโครงสร้างองค์การแบบตามผลิตภัณฑ์ (Departmentation
by product) คือ การจัดองค์การโดยยึดหลักตามผลิตภัณฑ์ขององค์การที่ผลิตได้
หรือแยกตามบริการขององค์การ
การออกแบบโครงสร้างองค์การแบบแมททริกซ์ (Matrix organization)
เป็นการจัดองค์การในลักษณะแผนก แต่ขึ้นกับหน้าที่องค์การ
โดยมีสายการบังคับบัญชา 2 สายพร้อมกันคือ
สายบังคับบัญชาที่เป็นงานประจำ และสายบังคับบัญชาที่เป็นงานโครงการ ทั้งที่เป็นแนวดิ่งและแนวนอน ซึ่งมีอำนาจหน้าที่เท่ากัน
โดยสรุปได้ว่า
การจัดองค์การ
หมายถึง การจัดระบบความสัมพันธ์ระหว่างส่วนงานต่างๆ และบุคคลในองค์การ
โดยกำหนดภารกิจ อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบให้ชัดแจ้ง
เพื่อให้การดำเนินงานตามภารกิจขององค์การบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ
หัวหน้างานทุกฝ่ายต้องมีความรับผิดชอบในขอบเขตหน้าที่ของตน
ไม่ควรเปลี่ยนแปลงขอบเขตความรับผิดชอบของตำแหน่งต่างๆ
โดยไม่ได้
พิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะจะกระทบกระเทือนต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง
พิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะจะกระทบกระเทือนต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง
การออกคำสั่งควรเป็นไปตามลำดับขั้นของสายการบังคับบัญชา
ไม่ควร
ออกคำสั่งข้ามหน้าผู้บังคับบัญชาขั้นต้น เพราะจะเป็นการทำลายระบบดำเนินงาน
ตามสายงาน เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงาน
ออกคำสั่งข้ามหน้าผู้บังคับบัญชาขั้นต้น เพราะจะเป็นการทำลายระบบดำเนินงาน
ตามสายงาน เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจของผู้ปฏิบัติงาน
เมื่อเกิดความขัดแย้งระว่างผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับขอบเขตของอำนาจ
หน้าที่ ฝ่ายบริหารควรจะพิจารณาตัดสินทันที
หน้าที่ ฝ่ายบริหารควรจะพิจารณาตัดสินทันที
ไม่ควรสนับสนุนให้ผู้ใต้บังคับบัญชาช่วยวิพากษ์วิจารณ์งานของคนอื่น
ควรให้ความสะดวกแก่ผู้บริหารในการตรวจสอบและการควบคุมการ
ทำงานอย่างอิสระ
ควรให้ความสะดวกแก่ผู้บริหารในการตรวจสอบและการควบคุมการ
ทำงานอย่างอิสระ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น